สับปะรดสีกลุ่ม (นีโอ)
|
ชื่อวิทยาศาสตร์
|
:
|
Neoregelia |
|
ถิ่นกำเนิด
|
:
|
แถบอเมริกากลางและใต้ |
|
วงษ์
|
:
|
BROMELIACEAE |
| จำนวนสายพันธุ์ | ทั่วโลกมีสายพันธุ์แท้ทั้งหมด 165 ชนิด สายพันธุ์ลูกผสมอีกกว่า 1000 ชนิด | |
|
ลักษณะ
|
:
|
ไม้อิงอาศัย อายุยืน สูงประมาณ 30 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางทรงพุ่มประมาณ 50 เซนติเมตร |
|
ใบ
|
:
|
ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปแถบยาว ปลายมนมีติ่งแหลม โคนเป็นกาบหุ้มลำต้น ขอบใบมีหนาม แผ่นใบสีเขียวปนชมพู มีแถบด่างสีเหลืองอ่อนกลางใบ |
|
ดอก
|
:
|
เป็นช่อแบบช่อกระจุก ออกจากกึ่งกลางต้น ดอกย่อยโผล่ขึ้นเหนือกาบรองช่อดอก |
|
การดูแลรักษา
|
||
|
ดิน
|
:
|
วัสดุปลูกมีความโปร่ง ระบายน้ำดีและเก็บความชื้นได้ เช่น กาบมะพร้าว ถ่าน อิฐทุบ โฟมละเอียด ไม่นิยมใช้ดินปลูก ต้องการน้ำปานกลาง ความชื้นในอากาศสูง ชอบแดดปานกลาง |
|
การขยายพันธุ์
|
:
|
เพาะเมล็ด แยกหน่อ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ |
|
ประโยชน์
|
:
|
ปลูกประดับในอาคาร ปลูกประดับสวน ปลูกเป็นไม้กระถาง |
เป็นไม้ที่เน้นโชว์ความสวยของใบ เนื่องจากใบมีความหลากหลายของสี แล้วแต่ชนิด ไม่จะเป็นสีชมพู สีแดง สีดำ เป็นต้น เมื่อถึงระยะออกดอก ใบกลางลำต้นจะเปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด เช่นใบสีเขียว เปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อใกล้ออกดอก ลักษณะดอกจะไม่โผล่ขึ้นเหนือใบเหมือนสกุลอื่นในกลุ่มสับปะรดสี เนื่องจากไม่มีก้านดอกนั่นเอง
