NONGNOOCH EVENT

เรียนรู้เกษตรอินทรีย์

เรียนรู้เกษตรอินทรีย์


“แหล่งเรียนรู้ด้านชีวภาพ”


    สวนนงนุชพัทยา ให้ความสำคัญกับสุขภาพของมนุษย์ รักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างสิ่งดีๆจากธรรมชาติเพื่อบำบัดตัวเรา สังคมและโลกใบนี้ ด้วยเหตุผลหลักคือ การมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ดี ดังนั้นการเรียนรู้และการค้นคว้าและการสังเกตจะนำไปสู่การสร้างรายได้โดยไม่ต้องลงทุนมากมายและปลอดภัยจากสารพิษต่างๆอีกด้วย  สวนนงนุชพัทยาจึงเป็นต้นแบบของการเรียนรู้ การวิจัยและเปิดโอกาสให้ทุกคนที่สนใจเข้ามาหาประสบการณ์เพื่อนำไปสู่การมีชีวิตที่ดี รู้เท่าทัน รู้เท่ามันและรู้เท่าคน   
  

“หัวเชื้อจุลินทรีย์ดับกลิ่น”  
1.จุลินทรีย์ เพื่อการการเกษตรสวนนงนุช  
       1.1 การทำน้ำหมักเอนไซม์สับปะรด  

    นงนุชเทรดดิชั่น เซนเตอร์ หรือ สวนนงนุชพัทยา 2 ได้มีแนวคิดให้นำเศษผลไม้ที่เหลือจากการรับประทานของนักท่องเที่ยว “บุฟเฟ่ต์ผลไม้” เข้าสู่กรรมวิธีและขั้นตอนแปรเปลี่ยนให้เป็นน้ำหมักสับปะรด และเอนไซม์สับปะรด (โดยจากผลการวิจัย พบว่า  สับปะรด คือ ผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยว มีฤทธิ์ความเป็นกรดสูง จะมีประสิทธิภาพในการดักจับคราบไขมัน โปรตีน และ สลายสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี)


       –  วิธีการทำน้ำหมักสับปะรด ( เปลือก ) เปลือกสับปะรด 3 ส่วน กากน้ำตาล 1 ส่วน ใช้ระยะเวลาในการหมัก 1 เดือน คุณประโยชน์ สามารถนำไปดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ นำไปบำบัดน้ำเสีย ดักจับตะกอนไขมัน


       – วิธีการทำเอนไซม์สับปะรด ( เนื้อ ) เนื้อสับปะรด 3 ส่วน น้ำตาลทรายแดง 5 ส่วน น้ำเปล่า 5 ส่วน ใช้ระยะเวลาในการหมัก 3 เดือนขึ้นไป คุณประโยชน์ สามารถนำเอนไซม์ไปผสมกับสารละลายเป็นแชมพู น้ำยาล้างจาน / น้ำยาล้างพื้น ขจัดคราบมัน สลายไขมัน และโปรตีน


       1.2 การกลั่นตระไคร้หอม 
    คือการนำผลผลิตจากสวนผักออแกนิกที่ทำการเพาะปลูกเอง ด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์ มาใส่ถังหมัก และทำการกลั่นสารสกัดจากตระไคร้ ออกเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปสเปรย์ไล่แมลงที่มีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


       1.3 น้ำส้มควันไม้ (Wood Vinegar) 
    เป็นน้ำส้มควันไม้ที่ได้จากการเผาถ่าน ลักษณะเป็นของเหลวสีน้ำตาล มีกลิ่นควันไม้จากการควบแน่น แตกต่างจากน้ำส้มสายชู หรือน้ำส้มอื่นๆ ที่มีสารประกอบอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะฟีนอล ซึ่งได้จากการสลายตัวของลิกนิน น้ำส้มควันไม้ที่ได้จากไม้ต่างชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน 
สวนนงนุชจึงได้จัดทำน้ำส้มควันไม้แต่ละชนิดขึ้นเพื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์หลักในการเกษตร และในครัวเรือน นอกเหนือจากนี้ยังสามารถนำมาเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย


ผลดีของน้ำส้มควันไม้จากการเผาไม้ชนิดต่างๆ : 
น้ำส้มควันไม้ดิบ 
ใช้ในการเกษตรฆ่า ไข่หนอน/ไข่แมลง ไล่แมลงต่างๆ ตามแปลงผัก ฆ่าไส้เดือนฝอย

น้ำส้มควันไม้ดิบไร้น้ำมันดิน 
ใช้ในการเกษตรฆ่าไข่หนอน ไข่แมลง ไล่แมลงต่างๆตามแปลงผักฆ่าไส้เดือนฝอย ไร้น้ำมันดิน

น้ำส้มควันไม้ดิบสกัด 
ใช้ในครัวเรือนดับกลิ่นในห้องน้ำ ฆ่าเชื้อโรคตามพื้นครัวเรือน ฆ่าไข่หนอนต่างๆ

น้ำส้มควันไม้กลั่น 
ใช้สำหรับคน แก้ผดผื่น คันตามผิวหนัง ป้องกันเชื้อราตามร่างกาย ดับกลิ่นเท้าล้างแผลสด


น้ำส้มควันไม้กลั่นสกัด 
    ใช้สำหรับคน แก้ผดผื่น แก้คันตามผิวหนัง ป้องกันเชื้อราตามร่างกาย ดับกลิ่นเท้า ล้างแผลสด และรักษาแผลตามร่างกาย ฉีดพ่นในผ้าอนามัย และแพมเพิร์ส ไร้สี ไร้กลิ่น  
นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมการสาธิตขั้นตอนการทำน้ำส้มควันไม้ และสามารถลงมือปฏิบัติผลิตภัณฑ์น้ำส้มควันไม้ได้ด้วยตัวเอง สวนนงนุชพัทยา พร้อมที่จะมอบความรู้เกี่ยวกับการเกษตรอินทรีย์ให้กับทุกท่านที่สนใจ


"เกร็ดความรู้การเผาถ่าน" 


     การเผาถ่านที่ดี และได้เนื้อถ่านที่มีคุณภาพนั้น คือ การเผาไหม้ในอากาศปิด อุณหภูมิความร้อนสูงและร้อนนาน ทั้งนี้นอกจากจะขึ้นอยู่กับไม้ที่เป็นวัตถุดิบในการเผาถ่านแล้ว ยังขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่นที่สำคัญ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเตาเผาถ่านอีกด้วย 


             วิธีดำเนินการเผาถ่าน ทักษะความสามารถในการเผาถ่านและประเภทของเตา

             ขั้นตอนการเผาถ่านด้วยเตาอิวาเตะ ตัดไม้ฟืน เรียงในเตาถ่าน บรรจุใส่เตาในแนวตั้งของเตาไม้ที่มีขนาดใหญ่ก็ควรจะผ่าเสียก่อน ปิดฝาเตาให้แน่นหนาอุดรอยต่างๆ ด้วยดินเหนียว ไม่ให้เป็นช่องทางให้อากาศเข้าได้ นอกจากทางปากเตา


    จุดไฟที่เตา เพื่อเริ่มต้นเผาถ่าน ระมัดระวังตำแหน่งของกองไฟหน้าเตาไม่ให้เข้าใกล้เตาจนเกินไป ตำแหน่งที่เหมาะสมคือประมาณ 1 ฟุต ปล่อยให้ไอร้อนเท่านั้นที่ไหลเข้าไปในเตา

 

           ดักเก็บน้ำส้มควันไม้ ทางปล่องที่ควันออก โดยสังเกตจากสีของควัน อุณหภูมิในเตาช่วงนี้ต้องอยู่ระหว่าง 400 – 500 องศาเซลเซียส เหมาะกับการผลิตถ่านดำหรือถ่านอ่อนแล้วปิดเตาไม่ให้อากาศเข้า  ปล่อยถ่านไว้ในเตาจนกว่าจะเย็นเอง ถ่านที่ได้จะมีสีดำ มีความแข็งน้อยกว่าถ่านขาวและถ้าไม้เปลี่ยนเป็นถ่านอย่างรวดเร็วถ่านดำจะสุกไม่เท่ากันทั้งแท่ง แต่หากต้องการผลิตถ่านขาวหรือถ่านแข็งผลิตโดยใช้ความร้อนที่ ประมาณ 1000 – 1100 องศาเซลเซียส แล้วนำถ่านที่กำลังลุกไหม้อยู่ออกมาดับนอกเตา โดยใช้ขี้เถ้าผลิตดินและน้ำ ประมาณ 10 – 20 % ขี้เถ้าดังกล่าวจะติดแน่นอยู่ที่ผิวถ่านเป็นสีขาวปนเทา มีคุณสมบัติแข็งกว่าถ่านดำ เนื้อถ่านสุกเท่ากันและมีปริมาณคาร์บอนเสถียรเท่ากันทั้งแท่งติดจุดไฟยากแต่ลุกไหม้ได้นาน


      เมื่อถ่านสุก สังเกตุได้โดยจะไม่มีควันออกมาจากปากปล่อง ให้ทำการอุดปากเตาและปากปล่องด้วยดินเหนียวรวมทั้งรอยรั่วอื่นๆ จนควันไม่สามารถเล็ดออกมาได้โดยเด็ดขาด ทิ้งเตาไว้ให้เย็นแล้วค่อยนำถ่านออกมา

ผลผลิตที่ได้จากเตาถ่าน


     ถ่านไม้ คือ ผลผลิตที่ได้หลังจากไม้ถูกสลายตัวด้วยความร้อนและมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติเฉพาะตัวของไม้แต่ละชนิดและแต่ละกระบวนการ

-ขี้เถ้า
-น้ำส้มควันไม้


ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากการเผาถ่าน

ถ่านดำ  ถ่านผง ถ่านขาว  น้ำส้มควันไม้ที่ยังไม่ได้กลั่น และน้ำส้มควันไม้ที่กลั่นแล้ว


2.  ไบโอแก๊ส (Bio Gas) คือ กระบวนการแปรเปลี่ยนสิ่งปฏิกูลให้เป็นกลายเป็นพลังงานทดแทน โดยการนำเศษอาหารมาทำการใส่ในถังหมัก (ที่มีจุลินทรีย์) แล้วจะเกิดกระบวนการแปรสภาพให้อยู่ในรูปแก๊ส โดยในระยะ 1 วัน/อาทิตย์ จะใส่เศษอาหารไม่เกิน 500 กิโลกรัม ผลที่ได้รับ จะได้แก๊สที่สามารถจุดไฟหุงต้มประกอบอาหารได้


3. น้ำยาล้างจาน / น้ำยาล้างพื้น ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่จัดเป็นโปรแกรมหนึ่งให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมฐานการเรียนรู้ เกี่ยวกับกรรมวิธีในการนำเอนไซม์จากการหมักสับปะรดมาทำน้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาล้างพื้น โดยสามารถนำน้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาล้างพื้นที่ทำแล้วกลับไปได้

 

ศึกษาดูงานโครงการเกษตรอินทรีย์พร้อมวิทยากรบรรยายให้ความรู้ ทั้งหมด 10 ฐาน
ฐานที่ 1 : การทำน้ำส้มควันไม้
ฐานที่ 2 : การปั้นกระถาง
ฐานที่ 3 : การทำปุ๋ยหมัก
ฐานที่ 4 : การปลูกผัก
ฐานที่ 5 : การทำปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
ฐานที่ 6 : การทำน้ำยาล้างจาน
ฐานที่ 7 : การเลี้ยงไส้เดือน
ฐานที่ 8 : การขยายพันธุ์เชื้อรา
ฐานที่ 9 : การเลี้ยงตัวห้ำตัวเบียน
ฐานที่ 10 : การทำน้ำหมักชีวภาพ